เรื่องเสียวเกย์ … คืนนั้นมันโคตรจะเร่าร้อนเลยว่ะ เพิ่งออกมาจากผับดังย่านเอกมัยตอนตีสอง แสงสียังบาดตา เสียงเพลงยังก้องในหู หาแท็กซี่อยู่ตั้งนาน รถก็ไม่ค่อยจะว่าง สงสัยคนอื่นก็ปลดปล่อยกันเต็มที่เหมือนกัน “แท็กซี่ไหมน้อง!” เสียงทุ้มนุ่ม มาจากข้างรถคันหนึ่ง ผมหันไปมอง แทบหยุดหายใจ! ลุงคนขับแท็กซี่อะไรวะเนี่ย สูงโปร่ง อยู่ใต้แสงไฟสลัวๆ ผิวเข้ม หน้าคมสัน มีหนวดเครา
ที่สำคัญคือแววตาที่มองมามันโคตรร้อนแรง ตรงสเปคลึกๆ ในใจผมแบบสุดๆ! แกยกยิ้มนิดๆ มุมปาก มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า “ไปไหนครับน้อง” เสียงแกแหบพร่าเล็กน้อย ทำเอาผมขนลุกซู่
“เอ่อ…คอนโดแถว…” ผมตอบเสียงแผ่ว มองแกตาไม่กะพริบ “ขึ้นรถสิครับ เดี๋ยวไปส่ง” แกเปิดประตูหลังให้ แต่สายตาผมมันจดจ่ออยู่กับใบหน้าหล่อเหลาคมคายนั้น ผมตัดสินใจเปิดประตูหน้ารถแล้วนั่งลงข้างๆ แก กลิ่นน้ำหอมผู้ชายจางๆ ผสมกับกลิ่นเหงื่อบางๆ ของแกมันชวนให้ใจผมเต้นแรง
ระหว่างทางบรรยากาศในรถมันอึมครึมไปด้วยความเงียบ แต่เป็นความเงียบที่แฝงไปด้วยกระแสไฟฟ้าบางอย่าง ผมเหลือบมองลุงเป็นระยะ แกก็ดูเหมือนจะรู้ตัว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร “คุณลุงเป็นคนแถวนี้เหรอครับ” ผมตัดสินใจทำลายความเงียบ “อ๋อ ลุงคนอีสาน มาทำงานกรุงเทพฯ เป็นสิบปีแล้ว” แกตอบเสียงนุ่ม ดวงตาคมกริบจ้องมองถนนข้างหน้า “อยู่กับลูกเมียเหรอครับ” ผมถามต่อ พยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น “เปล่าหรอก ผมอยู่คนเดียว เมียอยู่บ้านนอกกับลูก” แกตอบเสียงเบาลง หางตาแอบมองมาที่ผม
“แล้วลุงไม่เหงาบ้างเหรอครับ…” ผมถามพลางเลื่อนมือไปใกล้ๆ กับต้นขาแข็งแรงของแกอย่างไม่ตั้งใจ ลุงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมาสบตาผม แววตาคู่นั้นมันลึกซึ้งและเต็มไปด้วยความหมายจนผมใจสั่น “แล้วน้องล่ะ…ไม่เหงาเหรอ” แกถามกลับเสียงกระซิบ ผมกลืนน้ำลาย เอื้อมมือไปแตะที่ต้นขาของแกเบาๆ แล้วค่อยๆ ลูบขึ้นลงช้าๆ สบตาแกอย่างเปิดเผย “เหงาครับ…เหงามากๆ เลย…” ผมตอบเสียงแหบพร่า ลุงถอนหายใจหนักๆ มือใหญ่ของแกคว้ามือผมไว้แน่น แล้วค่อยๆ เลื่อนไปวางบนเป้ากางเกงที่เริ่มปูดนูนขึ้นมา
ผมสัมผัสได้ถึงความแข็งขืนที่อยู่ภายใต้เนื้อผ้า หัวใจผมเต้นระรัว “น้อง…” เสียงแกสั่นเล็กน้อย ผมโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูแก “ผมอยากช่วยให้ลุงหายเหงา…” ลุงกำมือผมแน่นขึ้น จอดรถข้างทางในที่เปลี่ยว มืดสนิท มีเพียงแสงไฟจากรถที่ส่องสว่าง ผมปลดเข็มขัดนิรภัย แล้วหันไปเผชิญหน้ากับแกอย่างเต็มตัว แววตาของทั้งคู่เต็มไปด้วยความปรารถนาที่ยากจะหักห้าม ลุงดับเครื่องยนต์ ความเงียบเข้าปกคลุม แต่เป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา แกหันมาหาผมช้าๆ มือใหญ่เอื้อมมาลูบแก้มผมเบาๆ “แน่ใจเหรอ…” แกถามเสียงแผ่ว ผมพยักหน้าแทนคำตอบ แล้วโน้มตัวเข้าไปใกล้ริมฝีปากหนาของแก
สัมผัสแรกมันแผ่วเบาแต่เร่าร้อน จากนั้นผมก็ค่อยๆ เลื่อนลงต่ำ ซบหน้ากับอกแกร่ง สูดดมกลิ่นกายเฉพาะตัวของแก “ลงไปตรงนั้นกับลุงนะ…” แกกระซิบข้างหูผม แล้วเปิดประตูลงจากรถ ผมตามลงไปอย่างว่าง่าย แสงจันทร์ส่องสว่างพอให้ผมเห็นร่างสูงใหญ่ของลุงยืนรออยู่ข้างรถ แกปลดกระดุมกางเกงช้าๆ ดวงตาจ้องมองมาที่ผมอย่างเปิดเผย ผมไม่รอช้า คุกเข่าลงตรงหน้าแก…
แสงจันทร์นวลส่องกระทบผิวเข้มของลุง มันช่างเย้ายวนเกินกว่าจะอดใจไหว ผมเงยหน้ามองสบตาแกอีกครั้ง แววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความปรารถนาและอ่อนโยน ผมค่อยๆ ดึงกางเกงในของลุงลงอ้าปากครอบครองส่วนที่แข็งขืนนั้นอย่างช้าๆ ความอุ่นร้อนและความใหญ่โตของมันทำให้ผมแทบคลั่ง ผมใช้ลิ้นเลียวนรอบๆ ส่วนหัวอย่างเอาใจ ก่อนจะค่อยๆ รูดขึ้นลงช้าๆ เสียงครางต่ำๆ ของลุงดังลอดไรฟันออกมา มันเป็นเสียงที่ปลุกเร้าอารมณ์ดิบในตัวผมอย่างรุนแรง ผมเพิ่มความเร็วและแรงขึ้นเรื่อยๆ สองมือก็ไม่ว่าง ลูบไล้ต้นขาแข็งแรงของแกสลับกันไป
“อืมมม…ซี๊ด…น้อง…” เสียงครางของลุงดังขึ้นเป็นระยะๆ มือใหญ่ของแกก็ลูบผมเบาๆ ที่ศีรษะ ผมรู้ว่าแกกำลังรู้สึกดีมากๆ และนั่นมันก็ทำให้ผมมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ผมดูดดึงส่วนปลายอย่างหนักหน่วง สลับกับการเลียและดูดกลืนเข้าไปลึกสุดคอ ลุงหายใจหอบถี่ขึ้นเรื่อยๆ ตัวสั่นเล็กน้อย ผมรับรู้ได้ถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในร่างกายของแก “ใกล้แล้ว…ซี๊ด…ใกล้แล้วน้อง…” เสียงลุงแหบพร่า ผมเร่งจังหวะเร็วขึ้นอีก ออกแรงดูดและรูดหนักๆ เน้นๆ จนในที่สุดลุงก็กระตุกเกร็ง ปลดปล่อยน้ำรักอุ่นๆ ข้นคลั่กเข้ามาเต็มปากของผม รสชาติเค็มๆ มันๆ มันช่างเป็นรสชาติที่น่าหลงใหล
ผมค่อยๆ ผละออกมา เลียริมฝีปากที่เปื้อนคราบขาวขุ่น มองสบตาที่ยังคงพร่าเลือนด้วยความสุขสมของลุง แกยิ้มบางๆ ให้ผม เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความขอบคุณและความเสน่หา “เก่งมาก…เด็กดี…” ลุงกระซิบเสียงแผ่ว แล้วโน้มตัวลงมาจูบผมอย่างดูดดื่ม มันเป็นจูบที่เนิ่นนานและลึกซึ้ง จนผมแทบละลาย หลังจากนั้นเราก็ยืนกอดกันอยู่ใต้แสงจันทร์ในความเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมพัดเบาๆ ที่ลอดผ่านใบไม้ มันเป็นค่ำคืนที่แสนพิเศษ คืนที่ความเหงาถูกแทนที่ด้วยความเร่าร้อนและความผูกพันอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน…