เรื่องเสียวเกย์ ฝึกงานเสียวกับท่านรอง ในความคิดผม ผมเคยเกลียดพวกผู้ชายที่ขายตัวมากที่สุด แล้วก็ไม่เคยคิดเลยว่า สักวันหนึ่งตัวเองจะต้องมาทำอะไรแบบที่ว่านี้ เรื่องของเรื่องคือตอนช่วงปิดซัมเมอร์ ผมต้องไปฝึกงานที่บริษัทแห่งหนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงและได้ชื่อว่าเข้ายาก ที่เข้าไปได้ก็เพราะว่าผู้จัดการกับ ผ.อ. สนิทกัน งานนี้เหนื่อยมากแล้วก็ได้ค่าแรงไม่คุ้มเหนื่อยแต่พวกเราจะได้ชื่อและใบประกาศว่าได้ผ่านการฝึกงานที่นี่มาแล้ว
ตอนนั้นก็มีเพื่อนๆ ผู้หญิงไปสี่คนและผู้ชายอีกสอง คือ ผมกับไอ้ดิว คือผมก็พยายามทำงานให้เข้าตาเขามากที่สุดเท่าที่จะทำได้น่ะครับ ดูเหมือนว่าพี่ๆ เค้าจะชอบไอ้ดิวมากกว่าเพราะไอ้นี่มันประจบเก่ง งานไม่ค่อยทำอะไรหรอก อาศัยขยันโม้โอ้อวดตัวเองให้เขาฟังเท่านั้น วันๆ เดินทักคนนั้นทีคนนี้ทีแล้วทำเป็นถือแฟ้มงานอ่านเหมือนจะพยายามทำความเข้าใจทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้มีหน้าที่ตรงส่วนนั้น ผมน่ะหรือใครสั่งอะไรมาพ่อทำหมดตั้งแต่ชงกาแฟยันถ่ายเอกสาร ทำงานจนบางครั้งออกไปกินข้าวไม่ทันเพื่อนๆ เลยต้องไปนั่งกินคนเดียว
ผ่านสัปดาห์แรกไปอาจารย์บอกว่ามีแต่คนชมไอ้ดิวว่าขยัน ส่วนผมเค้าบ่นว่าหาตัวไม่ค่อยจะเจอ ก็จะเจอได้ไงล่ะครับโดนเรียกใช้แม่งทั้งวัน คำติชมนั้นก้องอยู่ในหัวของผมตลอดทั้งวัน จนผมท้อใจไม่อยากจะทำอะไรจริงๆ นะครับชีวิตการทำงานถ้าหากว่าคุณไม่ประจบ คุณไม่เลีย จ้างให้ก็ร้อยทำ ร้อยรู้ ก็ไม่สู้ แต่ถ้าหากคุณไปบ่นกับงานที่นี่แล้ว ไม่มีทางที่จะเจริญก้าวหน้า นายเค้าไม่มาดูหรอกว่าคุณทำหรือเปล่า ไปโวให้เขาได้ยินว่าทำงานโน่นนี่เหนื่อยเขาก็จะคิดว่าเราไปทำจริงหนึ่งเลียหรอกครับ
มีพี่คนนึงแกสั่งให้ผมไปส่งเอกสารให้กับ รองฯ ที่ตึกอีกฝั่งหนึ่งซึ่งอยู่ตรงข้าม ผมก็เลยรับแล้วข้ามไปส่งเอกสารอย่างเซ็งๆ ระหว่างทางก็แอบหลบไปซื้อผลไม้ปอกที่ร้านข้างๆ มานั่งกินเล่นตามด้วยชาเขียวเย็นๆ อีกสักขวด เกือบครึ่งชั่วโมงถึงได้ข้ามไปเจอกับเลขา รองฯ ที่ยืนหน้าหงิกบ่นว่ารอตั้งนานแล้ว ผมก็โกหกไปว่าหลงทาง หาห้องของ รองฯ ไม่เจอ พอดีกับที่ว่ารองฯ แกเดินออกมาพอดี ตอนแรกแกคงอยากจะออกมาด่าผม แต่แล้วพอเห็นหน้าแกก็ยิ้มแล้วรับซองเอกสารไป
รองฯ แกเป็นหนุ่มใหญ่แล้วล่ะครับ หน้าตาก็จัดว่าดูดีแบบพวกลูกครึ่งนะครับแต่ผมแกสองสีแล้ว อายุก็ 40 กว่าๆ ล่ะ แต่หุ่นแกยังเป๊ะอยู่เลย ขนาดใส่สูทผูกไทยังรู้เลยว่ามีกล้าม รองฯ แกชื่อ “มหัทธนะ” แต่ส่วนใหญ่คนจะเรียกว่า รองฯ มาร์ค เพราะแกใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่ายังงั้น ส่วนผมก็ไม่ได้หล่อหรือล่ำหรอกนะครับ หุ่นก็โอเคแบบวัยรุ่นที่รู้จักดูแลรูปร่าง หน้าผมมันก็ออกๆ หวานๆ นิดหน่อย ผมว่าหน้าตาผมออกจะจีนๆ นะแต่เค้าชอบพูดกันว่าเหมือนเกาหลี ส่วนเรื่องแสดงออกนั้นถ้าไม่มานั่งสังเกตกันก็ไม่รู้หรอก เรื่องแต่งตัวก็เน้นที่ใส่แล้วดูดีไม่ต้องแบรนด์เนมมากมาย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาเกิดติดอกติดใจผม
พอผมกลับมาที่แผนกได้ไม่กี่นาที พวกๆ รุ่นพี่ก็วิ่งหน้าตาตื่นมาแจ้งให้ผมทราบว่ารองฯ ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนดุมากแล้วก็เจ้าระเบียบด้วย สั่งให้ผมย้ายไปฝึกงานที่ห้องแกแทน ผมก็เลยใจเสียคิดว่าแกอาจจะโกรธและหาทางแก้แค้นที่ผมไปส่งเอกสารช้าก็ได้ ยังคิดอยู่เลยว่าทำไมวันนี้ผมถึงได้โชคร้ายซ้ำซ้อนนัก แต่กลายเป็นว่าพอผมไปถึงผมกลับถูกเรียกเข้าไปนั่งทำงานในห้องของ รองฯ มีโต๊ะประจำตำแหน่งที่เพิ่งสั่งให้ยกเข้าไปเพื่อให้ผมโดยเฉพาะ พร้อมคอมพิวเตอร์ใหม่เอี่ยมอีกเครื่อง
พี่เลขาฯ แกรู้นะว่ารองฯ เรียกผมเข้าไปทำไมแต่แกไม่พูดหรอก เพราะขืนพูดไปก็โดนไล่ออกอย่างเดียว พอเข้าไปนั่งทำงานรองฯ แกก็สั่งให้ผมคอยพิมพ์หนังสือและเอกสารที่ง่ายๆ แค่ได้ลองแป๊บเดียวผมก็ทำได้แล้ว แกชอบมายืนคุมข้างหลังผม ก็รู้สึกระแวงๆ อย่างไรชอบกลอ่านะ ขนาดว่าแกไม่เคยมาถูกเนื้อต้องตัวผมแต่ก็อดวูบวาบไม่ได้เวลาที่แกมายืนใกล้ๆ บอกตามตรงว่าผมก็ไม่ใช่หนุ่มเวอร์จิ้นนะ ผมเคยมีแฟนมาแล้วสมัยที่เพิ่งเข้าปีหนึ่งใหม่ๆ แต่ก็อยู่กันได้ไม่นานนักหรอกเพราะเขามันเจ้าชู้ไปทั่ว ผมอกหักแต่ก็ขอเจ็บแค่ครั้งเดียวครั้งสุดท้ายพอ เพราะพอเลิกกับเขาผมก็หักใจตัวเองไม่ไปชอบหรือสนใจใครอีกเลย ผมไม่เคยมีสเปคผู้ชายอายุรุ่นราวคราวพ่อเลยสักนิด
รองฯ ให้ผมเรียกเวลาที่อยู่ด้วยกันสองต่อสองว่ามาร์ค แกบอกว่าต่อหน้าคนอื่นก็ให้เรียกว่าท่านรองฯ แกบอกว่าจะได้รู้สึกเป็นกันเองและง่ายต่อการทำงาน เพราะผมต้องคุยกับแกเกือบจะตลอดทั้งวัน ต่อหน้าคนอื่นมาร์คจะเก๊กมาก ตีหน้าดุและรู้จี้จุกจิก ส่วนเวลาที่อยู่กับผมแกจะยิ้มๆ และพูดคุยอะไรกันแบบสบายๆ หรือไม่ก็คุยเรื่องตลกเสียมากกว่า บอกตรงๆ เลยว่ายิ่งอยู่นานผมก็ชักจะเริ่มใจหวั่นไหว ทั้งๆ ที่ผมเองก็ยังไม่แน่ใจว่าแกคิดอะไรกับผม คือผมพยายามที่จะไม่มโนไปเองว่าแกชอบ
ผ่านไปสองสัปดาห์แล้ว ผมลืมเรื่องที่ตึกฝั่งโน้นกับไอ้ดิวไปหมดแล้ว มาร์คซื้อเข็มขัดมาให้ผมเส้นหนึ่งเป็นของดิออร์ สวยและดูเรียบร้อยแต่แอบเก๋นิดๆ มาร์คบอกว่าคนไทยคลั่งเข็มขัดแอร์เมสเสียเหลือเกิน ทั้งๆ ที่ยี่ห้ออื่นสวยและดีกว่าถมไป แกชมว่าผมแต่งตัวเป็นและมีรสนิยม นี่เป็นอีกอย่างที่แกชอบในตัวผม แกบอกให้ผมลองเปลี่ยนแล้วใส่มาให้แกดู ผมก็ไม่ทันคิดอะไรถอดแล้วใส่มันเสียตรงนั้น ต่อหน้าแกนั่นแหละ ตอนแรก รองฯ ก็ทำเป็นมองตาโตแต่ไม่ห้าม จากนั้นก็ยิ้ม “เออ หล่อๆๆ” แกชมเปาะ “แล้ววันหลัง อย่าไปถอดแบบนี้ต่อหน้าใครล่ะ คนเห็นเข้าจะคิดมาก” ผมรู้แล้วล่ะว่าแกหมายความถึงอะไร ผมหน้าแดงแต่ก็ไม่กล้าตอบ ดีที่ว่าห้องนี้เป็นห้องที่มิดชิดและไม่มีใครเข้ามาเองโดยพลการ
มาร์คเอามือมาแตะเอวผมเบาๆ แล้วแซว “เป็นไร เงียบเลยนะ” “เอิ่ม เปล่าครับ” “งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้จะซื้อกางเกงในมาฝาก” มาร์คพูดกลั้วหัวเราะ “เผื่อคุณจะเปลี่ยนให้ผมดูอีก” อายก็อาย แต่ผมก็ตอบเขาไปแบบหน้าด้านๆ เลยว่า “ถ้ากล้าซื้อให้ ผมก็กล้าใส่ให้ดูครับ” ตอนนั้นใจผมมันเป็นยังไงก็บอกไม่ถูก อยากรู้ อยากลอง อยากเอาชนะทั้งแกแล้วก็ไอ้ดิว รวมทั้งคำพูดของอาจารย์และพวกพี่ๆ ที่ฝั่งโน้น รองฯ มาร์คค่อยๆ โอบเอวผมแล้วกระซิบถาม “งั้นตอนนี้คุณใส่อะไรอยู่” “…บ็อกเซอร์” ผมกระซิบ “สีขาว-ดำ” มาร์คถอดแว่นสายตาออกแล้วเอียงคอมองผม ท่านั้นทำให้เลือดลมผมสูบฉีดจนเร่าร้อนไปทั้งร่าง ผมนึกออกเลยว่าหน้าของแกเหมือน บรูซ วิลลิส ตอนหนุ่มๆ
“แล้วทำยังไงผมถึงจะได้เห็นล่ะ…….หนึ่ง” ผมดึงชายเสื้อตรงเอวขึ้น ส่วนที่เว้าสูงทางด้านข้างทำให้มองผ่านเข้าไปดูขอบเอวกางเกงบ็อกเซอร์ที่สวมอยู่ข้างในได้ เขายิ้มเหมือนจะถูกใจแล้วเลียริมฝีปากเบาๆ “ผมอยากเห็นส่วนอื่นด้วย…….มากกว่านี้” เห็นได้ชัดเลยว่าเป้ากางเกงของมาร์คค่อยๆ โป่งพองขึ้นตรงหน้าผม เขาสวมกางเกงแบบไม่มีจีบอยู่แล้วเลยยิ่งเห็นได้ชัดเจน มันโด่สูงขึ้นมาหาผมเหมือนที่เป้ากางเกงของผมกำลังโด่คืนไป จนสุดท้ายเป้ากางเกงของเราก็ชนกันเบาๆ ตรงกลาง
“ชอบแบบนี้มั้ย” เขาแอ่นตัวดุนดันมันเข้าหากัน ผมเสียววูบวาบไปทั่วทั้งร่างเมื่อเข้ามากอดผมไว้ กลิ่นน้ำหอมราคาแพงกรุ่นอยู่ปลายจมูก มือใหญ่ๆ คว้าที่เป้าของผมแล้วคลึงขยำเบาๆ จนผมเสียวไปหมด เขาทดลองเอามือกำควยของผมข้างนอกกางเกงแน่นๆ เหมือนต้องการจะกะขนาด “อาหหห์…..ใหญ่ไม่ใช่เล่นเลยนะเราเนี่ย” เขากระซิบเสียงแหบๆ “ผมชอบคุณมาตั้งแต่ตอนที่เจอกันครั้งแรกแล้วรู้ไหม?” ผมสั่นหัว “ไม่จริงน่า” “หล่อ น่ารัก เห็นแล้วอยากจับเย็ดตูดให้หายเงี่ยน”
ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดของเขาจะทำให้ผมเกิดความเงี่ยนได้ขนาดนี้ ยอมให้เขาดูดไซร้ซอกคออย่างตื่นกระหายโดยไม่เกรงว่ามันจะเกิดรอยแดงขึ้นหรือไม่ มาร์คดูดไช้ได้เลียซอกคอผมไปพร้อมๆ กับการที่ใช้มือขยำเป้าผมนอกกางเกง แต่เขาก็ใช้ได้ไม่มากนักเพราะว่าคอเสื้อผมปิดและติดเนคไท มาร์คดันผมเข้าไปหลบหลังตู้หนังสือเพื่อป้องกันไม่ให้ใครเห็นในกรณีที่มีคนเปิดประตูเข้ามา (แต่ปรกติใครจะเข้าออก เลขาจะต้องแจ้งเข้ามา ก่อนแม้กระทั่งเวลาที่พี่เลขาจะเข้ามาก็ต้องกดแจ้งก่อน) มาร์คไม่ได้ถอดเสื้อผมออก แต่เขาดึงชายของผมออกจากกางเกงแล้วปลดกระดุมจากเอวขึ้นไปถึงที่คอยกเว้นเม็ดบนสุดที่ติดคอกับเนคไท เขาแหวกออกเพื่อดูกล้ามหน้าอกและซิกส์แพ็คของผม มาร์คค่อยๆ ก้มลงแล้วอมดูดหัวนมของผมอย่างเอร็ดอร่อย
“อาหหห……..อาห์……..ซี้ดดดดส์” ผมคราง “อย่าร้องสิ!” แกดุเบาๆ แต่สีหน้าบอกเลยว่าภาคภูมิใจมากที่ทำให้ผมร้องครางได้ดังขนาดนี้ มือแกก็สาละวนอยู่กับการแก้เข็มขัดที่แกเพิ่งซื้อให้และกางเกงสแลคตัวเก่ง มาร์คดึงรูดมันลงไปพร้อมๆ กับกางเกงบ็อกเซอร์ชั้นในของผม และเพียงเท่านั้นควยของผมมันก็ดีดตัวออกมาชี้ใส่หน้าของเขาอย่างอาจหาญ แต่มาร์คก็ยังไม่จัดการมันเสียตั้งแต่ตอนนั้นเพราะเขากำลังเพลิดเพลินกับหัวนมของผมอีกข้างอยู่ “น่าหม่ำเสียเหลือเกิน ซร้วบบ!!!!” เขาพร่ำขณะที่เริ่มเลียไล้ไปตามซิกส์แพ็คของผม “เป็นไง…..เสียวดีมั้ยครับ” ผมครางเบาๆ หน้าเหยเก “ซี้ดดดดส์ เสียวสิครับ……อาซชช์”
เขาถอดสูทที่สวมอยู่ออกแล้วโยนไปพาดที่พนักเก้าอี้เพื่อกันเลอะและยับ มันตกลงมาเพราะว่าเขาโยนไม่แม่นแต่ก็ไม่มีใครสนแล้ว มาร์คซุกหน้าลงตรงกลุ่มไหมสีดำของผมตรงหน้าขาแล้วสูดกลิ่นของมันจนเต็มปอด “ซี้ดดดดส์ หมอยหอมเหลือเกินทูนหัว อืมม์….อยากให้ผมกินท่อนเนื้อของคุณหรือยัง…..แผล็บ…….แผล็บ…….แผล็บ……” เสียงสุดท้ายเกิดจากการที่เขาเริ่มแลบลิ้นเลียไปตามท่อนลำควยของผม มันเสียวเอามากมายเพราะความอบอุ่นเปียกขึ้นและรสสัมผัสจากลิ้นของเขา แฟนเก่าของผมลีลาไม่เด็ดขาดขนาดนี้ เขาจะแค่ไซ้ๆ ชักๆ พอให้ผมมีอารมณ์แล้วก็จะจัดการสวมถุงยางเอาข้างหลังผมเลย
เบ็ดเสร็จทั้งหมดไม่เกิน 5 นาทีเลยตั้งแต่เริ่มถอดเสื้อผ้า ผิดกับมาร์คที่รู้จักเล้าโลม ปลุกปลอบอารมณ์อยากของผมจนแตกกระเจิง มือของเขาลูบไล้ไปมาทั่วทั้งตัวผมอย่างรักใคร่และทะนุถนอมกระทั่งผมอ่อนระทวยไร้สิ้นเรี่ยวแรงที่จะทรงตัว ต้องเอนหลังพิงเข้ากับกำแพง ผมทนไม่ไหวแล้วกับการยั่วเย้าให้เสียวซ่านของเขา “ซี้ดดดดดด ดูดเลยครับ” ผมกดหัวเขาให้ต่ำลงไป “ผมจะ….ไม่ไหวแล้ว” ผมงัดควยให้เขี่ยไปมาบนริมฝีปากที่เปิดอ้าของเขา มันเสียวเอามากๆ เลยครับ เวลาที่มาร์คแกล้งอมมันเข้าไปเล่นๆ เข่าผมแทบอ่อนหมดแรงยืนแน่ะ “อยากให้ผมกินน้ำของคุณด้วยหรือเปล่า” เขาแกล้งยั่ว “กินครับ….ซี้ดดดส์” ผมหลับหูหลับตาตอบ
“เร็วๆ เข้า เดี๋ยวมันจะออกมาซะตั้งแต่ตอนนี้ อาหหห์…ดีครับ…โอยยยยยย” มาร์คยอมอมมันเข้าไปอย่างช้าๆ และนุ่มนวล แต่เขาก็แกล้งกำที่โคนท่อนเนื้อของผมเพื่อสะกัดกลั้นความรู้สึกด้วย ผมรู้ว่าเขาคงไม่อยากที่จะให้ผมถึงจุดสุดยอดเร็วเกินควร ตอนที่บีบนั้นมันเสียวสุดๆ ครับ ควยแข็งโป๊กเหมือนหินแถมหัวควยก็บวมเปล่งแดงก่ำไปด้วยเลือดที่คั่งเต็ม หัวเป็นเงามันแลดูน่าดูดมากเลยครับเพราะว่ามีน้ำลายของมาร์คเยิ้มอยู่เต็มไปหมด เขาอมควยเข้าไปจนมิดด้ามแล้วค่อยๆ รูดออกไปที่ปลายช้าๆ เป็นจังหวะ มือก็ขยำถุงไข่ของผมเล่นเน้นเบาหนักสลับกันไป จากที่ผมเอนหลังพิงกำแพงผมก็เสียวหมดแรงจนรูดลงมานั่งกับพื้นแล้วตอนนี้
มาร์คหยุดดูดควยของผมแล้วเป็นฝ่ายผลุดลุกขึ้นยืนแทน เขาถอดเข็มขัดรูดซิปกางเกงลงแล้วถอดทั้งหมดลงมากองที่หัวเข่า “โหยยยยย…..” ผมคราง “ควยใหญ่จังเลยครับ” “ใหญ่แล้วชอบมั้ยล่ะ” ควยของมาร์คทั้งใหญ่ทั้งยาวยังกับของฝรั่ง หัวก็ถอกบานขลิบเปิดหมดจนไม่มีหนังหุ้มเหลืออยู่ สีมันอ่อนและสะอาดแบบคนที่ดูแลมาอย่างดี ขนเพชรก็เล็มตัดสั้นจนเกือบติดโคนแถมยังย้อมเป็นสีน้ำตาลทองอ่อนๆ ด้วย “อมมันเข้าไปสิ…..ซี้ดดดดดส์” เขาแอ่นควยมาให้ผม ผมคว้ามันมาอมรูดดูดเลียอย่างหิวกระหาย ผมไม่ได้โม้คใครแบบนี้มานานแล้วตั้งแต่เลิกกับแฟน ควยของมาร์คใหญ่จัดๆ และยาวมากแต่ก็ไม่แข็งเป็นหินเหมือนของผมหรือแฟน หอม สะอาด และหยุ่นแข็งน่าดูดดื่ม
มาร์คแค่ครางในลำคอเบาๆ แล้วเอามือยันกำแพงไว้ขณะที่เริ่มเด้าปากของผม “ดีมาก……ที่รัก…..ซี้ดดดดส์ “เขาส่ายเอวคราง “ทนอีกแป๊บเดียวครับ ผมไม่ทำนานหรอกวันนี้” พูดแบบนี้แสดงว่าปรกติคงอึดน่าดู ผมดูดควยของเขาไปก็รูดชักควยตัวเองตาม ทั้งเสียว ทั้งมันส์และได้อารมณ์สุดๆ เลยครับ และแค่ไม่ถึงห้านาทีมาร์คก็เริ่มซอยเร็วๆ แล้ว “อาหหห์…จะออกแล้วนะครับหนึ่ง ซี้ดดดดส์จะออกแล้ว กินน้ำควยของผมนะครับ……เราจะแลกน้ำกันกิน……..
เขาค่อยๆ จับผมนอนราบไปกับพื้นแล้วคร่อมในท่าโม้ค 69 จากนั้นก็ดูดควยผมไปด้วยพร้อมๆ กัน ผมพยายามที่จะปล่อยอารมณ์ให้เตลิดไปตามเขาแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะร่างทั้งร่างของมาร์คเริ่มสั่นและเกร็งกระตุก แล้วตอนนั้นเองที่ผมรู้สึกว่ามีน้ำอุ่นๆ พุ่งเข้าไปในลำคอผมมากมาย พร้อมกับอาการสะบัดเบาๆ ของท่อนควยในปาก ผมดูดดื่มมันสุดแรงแล้วกลืนน้ำอสุจิของมาร์คลงคอไป ผมเองก็เสียวสุดๆ แบบฉุดไม่อยู่แล้วในตอนนี้ ความอดกลั้นของผมพังทลายลงอย่างรวดเร็วตามมาร์คไปติดๆ มันเสียวที่ปลายหัวควยเสียววูบวาบพร้อมกับที่ความสุขระเบิดกระจายไปทั่วทั้งร่างตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
น้ำเสียวขาวขุ่นกระฉูดออกมาเป็นสายพุ่งเข้าไปในลำคอที่หิวกระหายของเขาและมันก็ถูกดูดดื่มเข้าไปจนหมดสิ้น เราสองคนแข่งกันดูดดื่มท่อนควยและน้ำเสียวกันอยู่นานจนหมดแรง เสียวซ่านสุดๆ แต่ก็หยุดปากไม่ได้เลย จนกระทั่งมาร์คเป็นฝ่ายที่หมดแรงยอมแพ้ก่อน “อาหหหห์….พอแล้ว ผมไม่ไหว เสียว ซี้ดดดส์ ” เขาทิ้งตัวลงนอนข้างๆ โดยไม่กลัวว่าเสื้อจะยับเลย ผมเองก็เช่นกัน แต่ผมรู้ดีว่าถ้าผมจะออกไปแค่ผมเอาเสื้อสูทมาใส่ทับก็เรียบร้อยแล้ว ผมกับเขานอนหายใจหอบๆ จนหายเหนื่อยแล้วต่างคนต่างก็ลุกขึ้นสวมเสื้อผ้า “ดีมั้ย ” เขาคว้าเอวผมแล้วดึงไปกอดก่อนที่จะกระซิบถาม
“สุดยอดครับ” ผมตอบแล้วจูบตรงต้นคอแกร่งๆ ของเขา “นี่ถือว่าเป็นการฝึกงานด้วยหรือเปล่าครับ” “ใช่…..แต่คุณยังไม่ผ่านการทดสอบใหญ่นะ” “งั้นมันจะมีขึ้นเมื่อไหร่ล่ะครับ” ผมชักเริ่มสนุก “เย็นนี้ผมไม่ว่าง มีนัดทานข้าวกับท่านประธาน…เอางี้แล้วกันนะหนึ่ง พรุ่งนี้วันเสาร์ตอนเย็นๆ ผมจะไปพักผ่อนที่ระยอง คุณอยากจะไปด้วยมั้ย” มีเหรอครับที่ผมจะปฏิเสธ บ่ายวันนั้นผมแทบทำงานไม่ไหวเพราะเพลีย แต่มาร์คสิกลับครึกครื้นอารมณ์ดี..ซู่ซ่าส์ ส่วนผมหมดแรงจากการที่โดนดูดควยกินน้ำเสียวไปยกใหญ่ เขาปล่อยให้ผมนอนหลับกับโต๊ะที่ทำงานโดยทำงานเองตามลำพัง มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เขาเอาเครื่องดื่มเกลือแร่กับแซนวิชมาให้นั่นแหละ (คือที่ออฟฟิศนี่สามารถสั่งอาหารจากร้านในละแวกนั้นให้เข้ามาส่งได้) ผมเลยรีบตื่นขึ้นมาจัดการมันเสียด้วยความโหย
ผมไม่รู้หรอกนะครับ ว่าตอนนั้นมาร์คแอบยัดเงินใส่กระเป๋าตังค์ให้ผมตั้งสามพัน กว่าจะรู้ก็ตอนที่จะจ่ายเงินค่ารถนั่นแหละ ตกใจเลยเพราะว่าทั้งเนื้อทั้งตัวผมไม่มีถึงพันเสียด้วยซ้ำไปวันนั้น แล้วอยู่ๆ เงินพวกนี้มันโผล่ออกมาจากไหนกัน ดูมาดูไปก็เจอโน้ตแผ่นเล็กๆ เขียนเบอร์มือถือกับเบอร์ไลน์ไว้ “เอาไว้เผื่อจะซื้ออะไรไปใช้ที่โน่น แล้วอย่าลืมนัดของเรา เย็นวันพรุ่งนี้นะครับ
จากคู่เสียวของคุณ มาร์ค “
ผมแทบจะรอคอยที่จะให้มันถึงตอนเย็นของวันพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้วล่ะ !!